top of page
Search

นาคาโซเนะ จากวัยรุ่นผู้กระหายการต่อสู้ สู่อาจารย์ผู้หวงแหงศิลปะโบราณ

  • Writer: ケイ
    ケイ
  • May 3, 2019
  • 1 min read

เซนเซ Nakasone Koichi สายโชรินริว ชิโดคัน เริ่มฝึกคาราเต้ตอนอายุ 18 (ปัจจุบัน 69) ตอนวัยรุ่นเขาชอบการแข่งขันต่อสู้ แต่โดโจที่เขาฝึกเป็นแบบดั้งเดิมคือเน้นคาตะอย่างเดียว ตอนนั้นเขารู้สึกว่าการฝึกคาตะอย่างเดียวจะมีประโยชน์กับการแข่งขันและการป้องกันตัวได้ยังไง ซึ่งตอนที่เขาประลองกับชาวต่างชาติครั้งแรกก็ถูกยำซะเละไม่เป็นท่า ทำให้ตอนนั้นเขาเชื่อว่าต่อให้เป็นคาราเต้ขนาดแท้และดั้งเดิมก็ไม่มีทางเอาชนะคู่ต่อสู้ชาวต่างชาติที่ตัวใหญ่กว่าได้ โดยหลังจากความพ่ายแพ้ครั้งนั้น เขาก็กลับมาคิดว่าทำยังไงถึงจะประยุกต์เอาคาราเต้ดั้งเดิมมาใช้เพื่อเอาชนะได้


เขาเริ่มจากการเพิ่มน้ำหนักตัวขึ้นมาอีก 20 กิโลฯ ซึ่งก็ทำให้เขาประสบความสำเร็จระดับนึงในการแข่งขัน เขาจึงเริ่มมั่นใจขึ้นและเดินทางไปยังสหรัฐอเมริกา (ราวปี 1980) เพื่อท้าประลองกับชาวต่างชาติคนแรกคนนั้นที่เขาเคยแพ้ ตอนนั้นเขาอายุ 30 ลงทุนออกจากงานเพื่อไปอเมริกา แต่ชาวอเมริกันคนนั้นกลับเดินทางมาโอกินาวะสวนทางกับเขา เซนเซเลยไม่ได้เจอเขา เลยตระเวณไปทั่วอเมริกาเพื่อฝึกตามโดโจต่างๆเป็นเวลา 3 เดือน ซึ่งเซนเซบอกว่านี่คือจุดเริ่มต้นของ "my karate" หรือคาราเต้ในแบบของเซนเซเอง ซึ่งเน้น self-defense หรือเทคนิคการป้องกันตัว


เซนเซบอกว่าเราต้องนึกถึงการป้องกันตัวอยู่ตลอดเวลา ซึ่งสิ่งที่ดีที่สุดก็คือการไม่ต้องใช้เทคนิคเหล่านั้นเลย แต่ในชีวิตจริงไม่มีใครรับประกันได้ จุดประสงค์หลักที่เซนเซหมั่นฝึกฝนคาราเต้ก็เพื่อฝึกและเรียนรู้เทคนิคการป้องกันตัว อาจารย์บางคนสอนว่าหากหมั่นฝึกคาตะมากๆ kumite (การต่อสู้) ก็จะดีขึ้นเอง แต่เซนเซไม่คิดอย่างนั้น เขาคิดว่าสิ่งได้จากคาตะคือเทคนิคการป้องกันตัว (เพราะสิ่งที่ซ้อนอยู่ในคาตะไม่ได้มีไว้ต่อสู้แต่มีไว้ป้องกันตัว)


ความแตกต่างระหว่าง sports karate (คาราเต้เชิงกีฬา) กับ traditional karate (คาราเต้ดั้งเดิม) สำหรับเซนเซนาคาโซเนะคือ ในกีฬาคาราเต้มีกฎกติกาที่แน่นอนเพื่อหาผู้แพ้ผู้ชนะ แต่ในศิลปะการต่อสู้อย่างคาราเต้ดั้งเดิม ไม่มีกฎกติกา ไม่มีผู้ชนะ ผู้ฝึกต้องเอาชนะตัวเองด้วยการท้าทายตัวเองอย่างต่อเนื่องไปตลอดชีวิต


ในเรื่องการฝึกอาวุธใน kobudo นั้น แม้เซนเซนาคาโซเนะเองจะไม่เน้น แต่เขาเห็นว่าจำเป็นต้องฝึกเพราะจะทำให้เราเข้าใจธรรมชาติและการทำงานของอาวุธนั้นๆ ในสถานการณ์คับขันที่เราจำเป็นต้องป้องกันตัวเอง บ่อยครั้งที่ผู้ไม่หวังดีจะมีอาวุธมากกว่าไม่มี ฉะนั้นหากเรารู้จักการใช้อาวุธในระดับนึง เราก็จะสามารถป้องกันตัวเองจากอาวุธนั้นๆได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น


สิ่งนึงที่เซนเซนาคาโซเนะได้เรียนรู้จากเซนเซอิฮะในอเมริกาคือ หากเราฝึกคูมิเตะด้วยกำลังอย่างเดียว หรือหากเราฝึกคาตะเพื่อความสวยงามอย่างเดียว คาราเต้ที่เราอุตส่าห์ฝึกฝนมาจะกลายเป็นสิ่งไร้ประโยชน์ทันที คาราเต้ไม่ได้ฝึกไว้เพื่อเอาชนะ แต่ฝึกไว้เพื่อไม่ให้แพ้ ด้วยร่างกายและกำลังที่เราทุกคนมีอยู่แล้ว เพียงแต่เราต้องเรียนรู้ที่จะใช้มันเป็นอาวุธอย่างถูกที่ถูกเวลา และไม่มีใครแก่เกินไปที่จะฝึกฝนการใช้ร่างกายและจิตใจอย่างมีประสิทธิภาพด้วยคาราเต้


ดูบทสัมภาษณ์สลับกับการสาธิตเทคนิคการป้องกันตัวจากคาตะเป็นระยะๆ (แนะนำเทคนิคการป้องกันตัวนาทีที่ 19:54 ที่ง่ายมากจนใครๆก็ทำได้) ได้ในวีดิโอ 26 นาทีข้างล่างนี้



เครดิตภาพ: https://travel67.com/2017/07/12/koichi-nakasone-9th-dan-ryukyu-kingdom-sui-di-bujutsu/

 
 
 

Comments


©2019 by Karate Phitsanulok. Proudly created with Wix.com

Subscribe Form

bottom of page